15 วิธีลดหน้ามัน ปัญหาหน้ามันทําไงดี

15 วิธีลดหน้ามัน สำหรับใครที่มีความกังวลความมันส่วนเกินบนใบหน้า แต่ไม่รู้จะหาทางออกยังไง ลองมาหลายวิธีแล้วแต่หน้าก็ยังมันเหมือนเดิม ยิ่งสภาพอากาศในบ้านเราที่ร้อนอบอ้าวขนาดนี้ ยิ่งง่ายมากที่จะทำให้ผิวหน้าของเรามันได้ตลอดเวลา ยิ่งแก้ก็เหมือนจะยิ่งเป็นหนักขึ้น ทำให้เสียความมั่นใจกันไม่ใช่น้อยเลย

สาเหตุของผิวมัน

ผิวหน้ามันมีสาเหตุมาจากการที่ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากเกินปกติ โดยต่อมไขมันบนใบหน้าจะมีมากในช่วง T-Zone โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณจมูกจะมีขนาดใหญ่และทำงานได้ดีกว่าต่อมไขมันบริเวณอื่น นี่จึงเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมบริเวณจมูกมักจะมีความมันมากกว่าปกติ โดยสาเหตุหลัก ๆ แล้ว ผิวมันจะมาจากกรรมพันธุ์เป็นหลัก นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่น ๆ เช่น อารมณ์ ความเครียด อากาศเปลี่ยนแปลง ความร้อน ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง การสัมผัส การใช้สกินแคร์ที่มากเกินความจำเป็นหรือใช้ไม่เหมาะกับสภาพผิว รวมไปถึงการใช้ยาบางชนิดก็มีส่วนทำให้ผิวของเรามันมากขึ้นเช่นกัน

15 วิธีลดหน้ามัน

  1. เลือกรับประทานอาหารสักนิด สำหรับคนผิวมัน สารอาหารสำคัญที่ควรได้รับอย่างเพียงพอก็คือ วิตามินเอ และวิตามินบี 2 เนื่องจากการขาดวิตามินบี 2 แม้เพียงเล็กน้อยก็อาจทำให้ผิวหน้ามันหนักขึ้นไปอีก ดังนั้นจึงควรรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินบี 2 อย่างถั่วต่าง ๆ และธัญพืชแบบไม่ขัดสีทั้งหลาย ให้เพียงพอ ส่วนอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินเอก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะสามารถช่วยลดกระบวนการผลิตความมันของผิวหน้าได้ เช่น แคร์รอต แคนตาลูป ผักโขม ฯลฯ นอกจากนี้คุณควรเลือกรับประทานผักและผลไม้ให้มาก หลีกเลี่ยงอาหารทอดและอาหารมัน เพราะยิ่งกินก็ยิ่งทำให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากยิ่งขึ้น ส่วนน้ำตาลและอาหารขยะทั้งหลายก็ควรหลีกเลี่ยง รวมไปถึงการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และอาหารเผ็ดร้อน เพราะจะทำให้หลอดเลือดขยายตัว ร่างกายขับเหงื่อออกมามากกว่าปกติ และทำให้ร่างกายขาดน้ำ
  2. ดื่มน้ำสะอาดให้มาก ๆ การดื่มน้ำเป็นอีกวิธีที่ช่วยลดความมันบนใบหน้าได้เป็นอย่างดี เพียงแค่คุณจิบน้ำทีละน้อยในระหว่างวันให้บ่อยครั้ง ไม่ควรดื่มมากในครั้งเดียว เพราะร่างกายจะได้รับเพียงเล็กน้อย ส่วนที่เหลือจะถูกขับออกทางปัสสาวะ แต่การค่อย ๆ จิบจะช่วยให้ร่างกายนำน้ำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า ซึ่งจะช่วยทำให้ผิวเกิดความชุ่มชื่น ร่างกายได้ทำความสะอาดจากภายใน และช่วยขับของเสียออกจากร่างกายได้สะดวกยิ่งขึ้น
  3. อย่าให้อะไรมาบดบังใบหน้า อย่างเช่นการปล่อยผมให้ปิดหน้า เพราะความสกปรกจะยิ่งสะสมบนใบหน้าของเรามากขึ้น คุณควรเลือกทำผมแบบที่สามารถเปิดใบหน้าออกได้ หรือหาที่หนีบผมสวย ๆ มาประดับแล้วรวบผมไว้ซะ ส่วนในเวลานอนก็ควรรวบผมไปข้างหลัง และหมั่นรักษาความสะอาดเครื่องนอน ปลอกหมอน และผ้าห่มเป็นประจำ
  4. หลีกเลี่ยงแสงแดด และควรใช้ครีมกันแดด คุณควรระวังอย่าให้ถูกแดดมากจนเกินไป เพราะแสงแดดจะทำให้ผิวแห้งลงและขาดความสมดุลได้ จึงเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น ทำให้หน้ามันหนักขึ้นกว่าเดิม และถึงแม้ว่าผิวหน้าของคุณจะมันอย่างไรก็ตาม ก็อย่าลืมทาครีมกันแดดทุกเช้า โดยพยายามเลือกใช้สูตรบางเบาหรือครีมกันแดดที่มีส่วนผสมที่ช่วยดูดซับความมันได้ (ครีมกันแดดสําหรับคนหน้ามัน) อย่างอนุภาคสังกะสี (micronized zinc) หรือไทเทเนียมไดออกไซด์ (titanium dioxide) และถ้าคุณไม่แพ้แอลกอฮอล์ก็สามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดสูตรที่ผสมแอลกอฮอล์ได้เลย ซึ่งจะมีความบางเบาและซึมซาบได้เร็วกว่าสูตรอื่น ๆ
  5. เรื่องความสะอาดต้องมาก่อน การที่ผิวหน้าของเรามีความมัน ก็จะยิ่งสะสมสิ่งสกปรกบนใบหน้า เพราะฉะนั้นเราไม่ควรปล่อยให้มีสิ่งตกค้างอยู่บนใบหน้าเป็นอันขาด ควรล้างทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาด และไม่ควรล้างหน้าบ่อย ๆ แต่ควรล้างแค่ช่วงเช้าและเย็น หรือล้างเฉพาะในเวลาที่รู้สึกว่าหน้าตัวเองมันมากจริง ๆ เท่านั้น เนื่องจากการล้างหน้าบ่อย ๆ จะยิ่งเป็นการเร่งผิวให้ผลิตน้ำมันมากขึ้นกว่าเดิม
  6. เลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้า คุณควรเลือกใช้โฟมล้างหน้าที่มีค่า pH เป็นกลางหรือค่อนไปทางกรดเล็กน้อย เพราะสภาพที่เป็นกรดจะช่วยป้องกันไม่ให้แบคทีเรียเจริญเติบโตได้ดี หรือเลือกโฟมล้างหน้าสูตรเย็น ที่ไม่ทำให้ผิวหน้าแห้งตึง เพราะนอกจากจะช่วยคืนความสดชื่นแล้วยังช่วยกระชับรูขุมขนด้วย ส่วนสบู่นั้นโดยปกติแล้วจะมีฤทธิ์เป็นด่าง จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้สบู่ธรรมดาล้างหน้า ส่วนโฟมล้างหน้าแบบสครับก็ควรหลีกเลี่ยงเช่นกัน เนื่องจากเม็ดสครับจะไปกระตุ้นให้ผิวสร้างน้ำมันมากขึ้น
  7. ใช้โทนเนอร์หลังล้างหน้า หลังจากล้างหน้าเสร็จแล้ว คุณควรใช้โทนเนอร์ชนิดที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และอะซีโตน เพราะจะทำให้หน้าแห้งมากจนผิวส่งสัญญาณให้ผลิตน้ำมันเพิ่มมากขึ้น ทำให้หน้ามันอย่างรวดเร็ว คุณควรหมั่นใช้โทนเนอร์เป็นประจำ โดยใช้สำลีชุบและลูบไล้ไปให้ทั่วใบหน้าและลำคออย่างอ่อนโยน ทำแบบนี้ประมาณ 2 ครั้ง เช้าและเย็น ซึ่งวิธีนี้จะช่วยควบคุมความมันบนใบหน้าได้เป็นอย่างดี
  8. ใช้ครีมบำรุงผิวที่ปราศจากน้ำมัน (ครีมสําหรับคนหน้ามัน) น้ำมันและความชุ่มชื้นเป็นคนละเรื่องกัน ผิวมันก็ปราศจากความชุ่มชื้นได้ ดังนั้นคุณควรเลือกใช้ครีมบำรุงที่มีพื้นฐานจากน้ำ เพราะการเลือกใช้ครีมที่มีส่วนผสมของน้ำมันจะยิ่งทำให้หน้ามันมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งครีมกันแดดที่มีความเหนียวข้นอยู่แล้ว ก็ให้ลองเปลี่ยนมาใช้ยี่ห้อที่เนื้อเบาบางดูบ้าง เช่น แบบออยล์ฟรีที่เหมาะกับผิวมัน ส่วนครีมบำรุงถ้าไม่มีแบบปราศจากน้ำมันหรือมีคุณสมบัติเฉพาะคนผิวมัน ก็ให้เลือกเป็นมอยส์เจอไรเซอร์ชนิดบางเบาไม่เข้มข้น หรือเซรั่มแบบน้ำ หรือเจลบางเบาที่ซึมเข้าสู่ผิวได้เร็ว เพื่อช่วยรักษาระดับความชุ่มชื่นแต่ไม่เหนอะหนะ ยกตัวอย่างเช่น ผลิตภัณฑ์ Olay Regenerist Whip ครีมบำรุงผิวเนื้อวิปสัมผัสบางเบา (ปราศจากน้ำมัน) ที่มีเทคโนโลยี “แอคทีฟ รัช” (Active Rush Technology) ที่ช่วยให้เนื้อครีมเกาะและคลายตัวเพื่อซึมซับเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว จึงไม่ทำให้รู้สึกเหนียวเหนอะหนะหรือทิ้งความมันวาวไว้บนใบหน้า หลังใช้จึงให้ความรู้สึกเบาสบายหน้าและไม่ทำให้รูขุมขนอุดตัน อีกทั้งครีมบำรุงตัวนี้ยังมีสาร Niacinamide (Vitamin B3) ที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวได้ดีอีกด้วย
  9. เลือกเครื่องสำอางในการแต่งหน้า เครื่องสำอางในปัจจุบันจะมีทั้งแบบแมทด้าน ๆ และแบบแวววาว ดูเงา ทั้งรองพื้น แป้งพัฟสําหรับคนหน้ามัน ลิปสติก อายแชโดว์ ถ้าเป็นไปได้ให้พยายามเลือกแบบที่เป็นเนื้อแมท จะได้ไม่ไปส่งเสริมให้หน้าของเราดูมันมากขึ้นกว่าเดิม ในส่วนของรองพื้น ควรเลือกใช้รองพื้นสําหรับคนหน้ามัน จะสูตรน้ำหรือรองพื้นสูตรเจลที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน น้ำหอม และแอลกอออล์ เนื่องจากรองพื้น 2 เนื้อนี้จะมีความบางเบา สามารถช่วยปกปิดร่องรูขุมขนบนใบหน้าได้อย่างพอเหมาะ อีกทั้งยังทนน้ำและทนเหงื่อได้ดี ไม่ทำให้รองพื้นหลุดลอกได้ง่ายในระหว่างวัน และให้เน้นไปที่รองพื้นซึ่งมีส่วนผสมของแร่ธาตุและวิตามินจากธรรมชาติ อย่างน้ำแร่ ซิงค์ ออกไซด์ และวิตามินซี เพราะจะช่วยดูดซับความมันส่วนเกินบนใบหน้าได้เป็นอย่างดี และวิตามินซียังช่วยทำให้ผิวของคุณดูกระจ่างใส เปล่งปลั่ง ไม่หม่นหมองอีกด้วย
  10. ใช้มาส์กหรือครีมที่มีสาร AHA, BHA เพราะส่วนผสมเหล่านี้จะช่วยเพิ่มคอลลาเจนให้กับผิว กระชับรูขุมขนให้เล็กลง และช่วยกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกไปได้ จึงเป็นการเผยผิวใหม่ที่ดูเรียบเนียน แต่ก็ไม่ควรใช้บ่อยจนเกินไป ให้ใช้แค่ประมาณสัปดาห์ละ 2 ครั้งก็พอ อย่างเช่น พอกหน้าด้วยโคลน เพราะมาส์กหน้าจำพวกโคลนจะมีจุดเด่นในเรื่องการช่วยดูดซับความมันและทำความสะอาดรูขุมขนได้ดี หรือเลือกใช้สมุนไพรอย่างขมิ้นและมะขามเปียก เป็นต้น
  11. สูตรมาส์กหน้าลดความมัน วิธีนี้คุณสามารถทำได้เองง่าย ๆ ที่บ้าน เพราะการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีขายทั่วไป บางครั้งอาจมีส่วนผสมของสารเคมีที่รุนแรงต่อผิว บางครั้งก็อาจทำให้ผิวขาดความสมดุล จึงกลายเป็นต้นเหตุของปัญหาอื่น ๆ ตามมา ฉะนั้นทางออกอย่างหนึ่งก็คือการใช้ทรีตเมนต์จากส่วนผสมธรรมชาติที่ช่วยดูแลผิวมันได้
  12. ใช้กระดาษซับหน้ามันในกรณีที่จำเป็น เป็นวิธีพื้นฐานที่ช่วยจัดการความมันส่วนเกินได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่ใช้กระดาษหรือแผ่นฟิล์มซับความมัน นำมาซับบนใบหน้าบริเวณที่เป็นมัน แต่ต้องซับเฉพาะความมันที่เป็นส่วนเกินเท่านั้น หรือในกรณีที่หน้าของเรามันเวอร์จริง ๆ เพราะถ้าหากซับหน้าจนแห้ง ก็จะกลายเป็นการซับเอาน้ำมันส่วนที่ควรเหลือไว้หล่อเลี้ยงผิวออกไปจนหมด คราวนี้ผิวจึงยิ่งเร่งขับน้ำมันออกมามากขึ้นกว่าเดิม ! (เหมือนการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องอะไรอย่างงั้น !) อ้อ…นอกจากกระดาษซับมันแล้ว ทิชชูเปียกสำหรับเช็ดหน้าบางยี่ห้อก็มีส่วนผสมของ salicylic acid, glycolic acid, alcohol หรือส่วนผสมที่ช่วยชะลอการทำงานของต่อมไขมันบนใบหน้าด้วย จึงช่วยให้ผลิตน้ำมันน้อยลง สำหรับใครที่หน้ามันก็ลองหามาเช็ดระหว่างวันดูได้ แต่น่าจะเหมาะกับคุณผู้ชายมากกว่า เพราะไม่ได้แต่งหน้าเหมือนคุณผู้หญิง